โรคพาร์กินสัน คืออะไร
โรคพาร์กินสัน คือ โรคที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของระบบประสาทและสมอง ทำให้ผลิตสารสื่อประสาทที่มีผลต่อการสั่งการส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย ส่งผลต่ออารมณ์และการตื่นตัว เคลื่อนไหวร่างกาย หรือที่เรียกว่า สารโดปามีน (Dopmine) ได้น้อยลงกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดอาการมือสั่น ตัวสั่น เคลื่อนไหวช้า ตามมา
สาเหตุของโรคพาร์กินสัน เกิดจากอะไร
โรคพาร์กินสัน สาเหตุคืออะไรยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้แน่ชัด แต่ทางการแพทย์มีการสันนิษฐานว่าอาจเกิดได้จาก 2 ปัจจัยดังต่อไปนี้
พันธุกรรม ในผู้ป่วยบางรายอาจมียีนที่ผิดปกติแต่กำเนิด ซึ่งอาจส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของเซลล์สมองและเสี่ยงที่จะเกิดโรคพาร์กินสันได้
พฤติกรรมการใช้ชีวิตและสภาพแวดล้อม อาจเกิดจากการสูดดมสารเคมีบางชนิดโดยไม่รู้ตัว ที่ส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของเซลล์สมอง แต่ทางการแพทย์เองก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าสารดังกล่าวคือสารชนิดใด
โรคพาร์กินสันมีอาการอย่างไร
โรคพาร์กินสัน อาการเริ่มต้น ที่สังเกตได้ชัดเจนคืออาการสั่นโดยไร้สาเหตุ คิดช้า เคลื่อนไหวตัวช้า นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ ในผู้ช่วยบางรายอาจหยุดนิ่งไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ หลังงุ้ม เดินซอยเท้า พูดช้า น้ำลายไหลโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้ความรุนแรงของอาการที่แสดงออกมา จะขึ้นอยู่กับระยะอาการของผู้ป่วยด้วยเช่นเดียวกัน
โรคพาร์กินสันมีกี่ระยะ
โรคพาร์กินสันมีทั้งหมด 5 ระยะ ด้วยกัน ซึ่งแต่ละระยะก็จะมีลักษณะอาการที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่
1. โรคพาร์กินสันระยะเริ่มต้น
ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันระยะเริ่มต้น มักจะมีอาการปวดเมื่อยร่างกาย มือสั่น นิ้วล็อก หรือรู้สึกควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายตนเองไม่ได้ในระยะเวลาสั้น ๆ
2. โรคพาร์กินสัน ระยะที่ 2
อาการผู้ป่วยในระยะนี้มักจะมีภาวะตัวโก่งงอไปด้านหน้า หลังเริ่มค่อมลงเล็กน้อย บวกกับมีอาการสั่นและเคลื่อนไหวช้า ร่างกายหยุดนิ่งในบางเวลาเช่นเดียวกับระยะที่ 1
3. โรคพาร์กินสัน ระยะที่ 3
ในระยะที่ 3 นี้ผู้ป่วยจะเริ่มสูญเสียการทรงตัว ล้มง่าย ลุกนั่งลำบาก ยังคงมีอาการสั่นและเคลื่อนไหวช้าเช่นเดียวกัน
4. โรคพาร์กินสัน ระยะที่ 4
เป็นระยะที่ผู้ป่วยจะไม่ค่อยมีอาการสั่นมากเท่าระยะ 1-3 แต่ร่างกายจะเริ่มแข็งเกร็ง มีอาการเคลื่อนไหวช้า และสูญเสียการทรงตัว ช่วยเหลือตัวเองได้ลำบาก ระยะนี้ควรมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด
5. โรคพาร์กินสัน ระยะสุดท้าย
ระยะสุดท้ายเป็นระยะที่ผู้ป่วยแทบจะไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เลย จะเรียกว่าเป็นผู้ป่วยติดเตียงก็ได้เช่นกัน กล้ามเนื้อจะแข็งเกร็งจนไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ มือและเท้าจะเริ่มหงิกงอ และเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนมากมายตามมา
การดูแลและการรักษาผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
โรคพาร์กินสัน วิธีรักษา หลัก ๆ เลยคือการรับยาไปทานเพื่อเพิ่มสารโดปามีนทดแทนในส่วนที่เสื่อมสภาพไป หรืออีกหนึ่งวิธีคือการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วยที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่อยา จะใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อฝังขั้วไฟฟ้าในการกระตุ้นสมองแทน บวกกับการทำกายภาพบำบัดในเบื้องต้น เพื่อให้ร่างกายเกิดการเคลื่อนไหวและฝึกการทรงตัว
โรคพาร์กินสัน การดูแลต้องทำอย่างไรบ้าง
การดูแลผู้ป่วยพาร์กินสัน ในระยะที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ควรให้ผู้ป่วยออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นการใช้งานของกล้ามเนื้อ และให้ทานอาหารที่มีประโยชน์เน้นสร้างพลังงานและโปรตีน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ประกอบกับการจัดยาให้ทานอย่างสม่ำเสมอ เท่านี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับเข้าสู่สภาวะใกล้เตียงกับปกติได้มากที่สุดแล้วล่ะค่ะ